คลิกที่นี่เพื่อสนทนา Facebook Logo

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ครั้งที่ ๒/๒๕๖๗

วันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๔.๐๐ น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ครั้งที่ ๒/๒๕๖๗ โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติเข้าร่วม ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

โดยในส่วนของกระทรวงวัฒนธรรม มีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม นางเกษร กำเหนิดเพชร รองผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ผู้แทนผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย นางสาวเพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหาร และข้าราชการ เข้าร่วม

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมอบนโยบายต่อที่ประชุมพอสังเขป ดังนี้ นโยบายในแต่ละสาขาควรเตรียมความพร้อมสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมและคนในช่วงของต้นน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ เพื่อให้ครอบคลุมถึงประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ที่เริ่มต้น ต้องการฝึกฝนหรือเรียนรู้เพื่อสร้างอาชีพต่อไปในอนาคต โดยได้มอบนโยบายในการทำงาน จำนวน ๓ ข้อ ดังนี้ ข้อ ๑ ขอให้ทำแผนการ “รับ Register” เพื่อคัด ๑ ครอบครัว ๑ Soft Power ให้เร็วที่สุด เพื่อเราจะได้แยกความรู้ความสามารถตามความชำนาญและสาขาอาชีพ และนำคนไปเข้าหลักสูตรฝึกอบรม วิธีการคัดเลือกผู้เข้าเรียนให้ทั่วถึง และยุติธรรม ข้อ ๒ ขอให้เตรียม “เนื้อหา Content” ที่จะใช้ในการ Upskill/Reskill ให้ตรงกับความชำนาญ และเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ในการเรียนรู้ที่สำคัญ วิธีการเรียนการสอน ต้องเข้าใจง่าย มีมาตรฐานที่ดี และข้อที่ ๓ การจัด Event ขอให้เป็นการ “ต่อยอด” จากที่ภาคอุตสาหกรรมทำอยู่แล้ว รัฐควรพิจารณาในการต่อยอด Event ที่ทำแล้วจะช่วยขยายผลได้มาก ต่อยอดจากภาคอุตสาหกรรมให้เข้าถึงคนได้มากขึ้น และต้องให้แน่ใจว่าการต่อยอดนั้นเป็นประโยชน์มากขึ้น มีความคุ้มค่าในการลงทุน ฉะนั้น ขอให้มีตัวชี้วัดชัดเจนว่า การมีรัฐลงทุน จะช่วยขยายผลได้อย่างไร

แชร์

ภาพกิจกรรมอื่นๆ